แบบผ้าม่าน

รูปแบบผ้าม่าน

 แบบผ้าม่าน ที่นิยมใช้ในปัจจุบัน

      สิ่งแรกในการตัดสินใจทำผ้าม่าน คือแบบหรือรูปแบบของผ้าม่าน ซึ่งก็มีหลายแบบว่าจะพอใจหรือตัดสินใจเลือกทำผ้าม่านแบบไหน เพื่อที่จะให้ลงตัวกับห้องที่จินตนาการหรือออกแบบไว้ ตามความตั้งใจ หรือต้องการที่จำทำให้ห้องนั้นดูดีที่สุดสวยที่สุด ใช้งานตามความต้องการมากที่สุด อาจต้องรวบรวมและหาข้อมูลจากหลายแหล่ง หาจุดดี จุดเด่น ในม่านแต่ละประเภท เพื่อประกอบการตัดสินใจ ผ้าม่านที่นิยมทำหลักๆ ในปัจจุบันก็มีอยู่ด้วยกัน 3-4 แบบ  อันดับความนิยมอันดับต้นๆ คือ รวมรูแแบบผ้าม่าน

รวมแบบผ้าม่าน

 

 

1.ผ้าม่านตอกตาไก่

 

     ผ้าม่านตอกตาไก่ ทีได้รับความนิยมเนื่องจากมีข้อพิเศษหลายอย่างต่างจากม่านรูปแบบอื่น เป็นรูปแบบที่เรียบง่าย ดูคลาสสิก สะดวกในการในการใช้งาน ไม่ต้องมีอุปกรณ์เกี่ยวข้องอะไรมาก ราคาไม่แพง ง่ายต่อการดูแลรักษา สามารถถอดซักและทำความสะอาดได้ไม่ยุ่งยาก  ลักษณะของม่านตอกตาไก่คือ เจาะรูที่หัวผ้าม่าน เพื่อใส่ห่วงพลาสติกลักลักษณะรูปโดนัท มี2ชิ้นประกบหน้าหลัง ติดกับตัวผ้า ซึ่งเรียกว่าตาไก่ ไว้สำหรับสอดรางที่เป็นทรงกลม อาจเป็นรางไม้ รางอลูมิเนียม รางเหล็ก หรือ รางสแตนเลสก็ได้ สำหรัยรางที่ใช้กับม่านตาไก่ มีอยู่ 3 ขนาดคือ   รางขนาด 19 ม.ม.(6 หุน) ขนาด 25 ม.ม.(1นิ้ว) ขนาด 35 ม.ม. (1.5นิ้ว)  ขนาดที่นิยมใช้มากกว่า จะเป็นรางขนาด 19 ม.ม. เนื่องจากขนาดพอเหมาะกับขนาดผ้าม่านที่ใช้ตามที่พักอาศัยโดทั่วไป มองดูแล้วลงตัว สวยงามมากกว่า ส่วนราง  25 ม.ม. และ ขนาด 35 ม.ม. ก็จะเหมาะผ้าม่านที่ชุดใหญ่ ที่มีความกว้าง ความสูงมากกว่า 3 เมตรขึ้นไป  

ผ้าม่านตาไก่สีเขียวหม่นกลมกลืน
ผ้าม่านตาไก่รางสแตนเลส

 

  ชนิดของรางที่นิยมใช้ เพื่อการใช้งานง่ายและคล่องตัว ต้องเป็นวัสดุที่ทำจากสแตนเลส ซึ่งป็นวัสดุที่มีพื้นผิวเรียบกว่ารางชนิดอื่น ทำให้รูดเปิด-ปิด คล่องตัวกว่า สามารถเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ ไม่ว่าผ้าม่านจะเป็นสีอะไร ภายในห้องจะแต่งแบบไหน สแตนเลสไม่ขัดแย้งกับสิ่งดังกล่าว รางสแตนเลส ใช้ได้ทนทาน  ไม่มีโอกาสเสียหาย ไม่ดำ สีไม่ลอก ไม่ขึ้นสนิม และที่สำคัญ สามารถดัดโค้งตามพื้นที่ที่ออกแบบสำหรับห้องนั้น  อาจดัดเป็นรูปตัว L หรือ ตัว U ตามพื้นที่ของห้อง เช่นหน้าต่างหรือประตูที่เป็นกระจกหักมุม 2 หรือ 3 ด้าน  ซึ่งรางอื่นอาจทำไม่ได้ เนื่องจากมีข้อจำกัด รางสแตเลสสามารถดัดได้และดีกว่า

   

       แต่อย่างไรก็ไม่ได้หมายความว่ารางอย่างอื่นไม่ดี แต่ละชนิดก็จะมีจุดเด่นแตกต่างกัน รางไม้ ก็จะได้คุณค่าของความเป็นไม้ ก็จะได้อีกบรรยากาศ ก็ขึ้นอยู่กับว่าจะออกแบบให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมภายในแค่ไหน แต่อาจมีข้อเสียบ้างสำหรับรางไม้ ถ้าผ้าม่านนั้นชุดใหญ่ มีความกว้างและความสูงมาก น้ำหนักก็จะมากขึ้น อาจทำให้รางที่ทำจากไม้อาจแอ่นระหว่างขายึด หรือตกท้องช้างได้ เนื่องจากการใช้ขายึดราง ไม่ว่าชุดเล็กหรือชุดใหญ่แค่ไหน ก็ใช้ขายึดได้แค่ 3 ตัวเท่านั้น คือ หัวด้านซ้าย จุดกึ่งกลาง และหัวด้านขวา ไม่สามารถยึดได้มากกว่า 3 จุด เนื่องจากข้อจำกัดของรูปแบบม่านตาไก่ ที่ต้องรูดม่านทั้งทางด้านซ้ายและด้านขวามาชนกันตรงกลาง 


ม่านตาไก่มุมห้องรับแขก

 

 

การใช้ผ้า ม่านตอกตาไก่ใช้ผ้าพอๆกับม่านจับจีบ หรืออาจใช้น้อยกว่าเล็กน้อยได้เพราะว่าไม่ได้ล๊อกจีบแบบ ผ้าม่านจับจีบ โดยสามารถยึดระยะได้มากกว่า และไม่นิยมรีดจีบให้คมหรือเป็นสัน จะนิยมรีดเรียบ เมื่อสอดรางผ่านห่วงตามรูปแบบก็จะทำให้ผ้าเกิดเป็นลอน โดยตัวรางจะเป็นตัวบังครับทำให้เกิดลอนดังกล่าว   

2.ผ้าม่านจับจีบ

ผ้าม่าน

   

ผ้าม่านจีบ เป็นรูปแบบมาตรฐานอาจเรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการทำผ้าม่าน เป็นที่นิยมทำมา นาน สามารถดัดแปลง ตกแต่งเพิ่มเติมเป็นผ้าม่านรูปแบบต่างๆได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะทำเป็นม่านหลุยส์ ม่านกล่อง ม่านรางโชว์ ตัวสำคัญหลักคือการจับผ้าเป็นจีบ เมื่อนำไปประกอบเข้ากับหัวหลุยส์ก็เรียกว่า”ม่านหลุยส์” ทำกล่องครอบส่วนบนหัวม่านเรียกว่า”ม่านกล่อง” และนำไปแขวนกับรางโชว์หรือรางประดับ ก็เรียกว่า”ม่านรางโชว์

 

หลักการของม่านจีบ คือการใช้ผ้าเท่าตัวของความกว้าง ของประตูและหนในการตัดเย็บ เพื่อให้ลงตัว สวยงาม นำผ้าส่วนที่เหลือจากความกว้างมาจับเป็น วิธีคือจับผ้าส่วนหัวมาเรียงทบซ้อนตามแนวนอนจากซ้ายไปขวาของผืนผ้า โดยจับเป็น 3 จีบ 2 จีบ หรือ 1 จีบ ก็ได้เช่นกัน โดยมีช่วงห่าง ระยะเท่าๆกันประมาณ10ซ.ม. ตลอดทั้งผืน หลังจับจีบด้านบนที่หัวผ้า ใต้จีบลงมามักรีดให้เป็นสันคม พับสลับไปมาเหมือนหีบเพลง เป็นระเบียบเรียงกันสวยงาม


ผ้าม่านจีบ Peach curtain_30

 

 

ด้านล่างที่เรียกว่าชายผ้าม่าน จะใส่โซถ่วงเพื่อให้ผ้ามีน้ำหนักเพิ่มขึ้น หรืออีกแบบ คือไม่ต้องรีดจีบให้เป็นสันคม จัดผ้าให้เกิดลอนแทนการรีดจีบจะได้ผ้าม่านจีบอีกรูปแบบหนึ่งที่ดูนุ่มนวล เกิดลอนเรียงซ้อนกันสวยงาม แต่อาจจะเหมาะกับผ้าที่มีน้ำหนัก พริ้วไหวและทิ้งตัวดีเท่านั้น ไม่ใส่โซ่ถ่วงด้านล่าง สำหรับจีบแต่ละจีบจะเสียบตะขอไว้เพื่อใช้เกี่ยวกับลูกล้อในรางม่าน ผ้าม่านแบบจับจีบใช้ได้กับรางม่านหลายชนิด มีรางม่านให้เลือกใช้หลายตามความต้องการและเหมาะสม 

 

รางที่นิยมในปัจจุบันคือรางM คือรางที่มีรูปหน้าตัดลักษณคล้ายตัวM ใช้ลูกล้อคู่ ทำให้การรูดผ้าม่านลื่นไหล คล่องตัวมากขึ้น ราคาอาจแพงกว่ารางตัวCที่ใช้ลูกล้อเดี่ยวบ้างเล็กน้อย แต่แข็งแรงกว่า ไหลลื่นกว่า และยังสามารถดัดโค้ง 90 องศาได้ ทำตามพื้นที่ๆเป็นรูปตัว L หรือตัว U โดยใช้เครื่องดัดโค้ง และยังมีรางสำหรับดัดโค้งด้วยมือ มีรูปหน้าตัดคล้ายตัว I สำหรับพื้นที่ที่องศาไม่แน่นอน คือสามารถดัดได้อิสระตามความต้องการ ยังมีรางอีกหลายชนิดที่เหมาะกับม่านจีบ โดยส่วนใหญจะมีลักณะคล้ายรางM ขึ้นอยู่ความเหมาะสมและการเลือกใช้

3.ม่านพับ

ม่านพับลายดอกไม้ 2006

         

ผ้าม่านพับ (roman blind) เป็นม่านอีกรูปแบบที่ได้รับความนิยม ลักษณะคือเมื่อเก็บหรือเปิดม่านจะพับเป็นชั้นๆเป็นระยะ เรียงกันขึ้น-ลงตามแนวดิ่ง ระดับของแต่ละพับจะลดหลั่นเพื่อความสวยงาม ด้านหลังที่เป็นตัวกำหนดให้เกิดการพับ เสริมเหล็กเส้นเพื่อเป็นตัวบังคับให้เกิดรูปทรงโดยใส่เป็นระยะตามขนาดความสูงของม่าน สำหรับม่านพับจะใช้ผ้าน้อยกว่าผ้าม่านแบบอื่น เนื่องจากรูปทรงของเรียบตลอดทั้งผืน ตกแต่งเสริมลายอะเอียดได้หลากหลาย

 

 

อาจทำกุ้น ใช้ผ้าอีกสีมาตัดทั้งด้านข้างสองด้านซ้าย-ขวา หรือบน-ล่าง ตามการออกแบบ หรือแต่งเติมด้านบน อาจเพิ่มชั้นบนทำเชิง เดินลวยลาย ตัดโค้ง ใส่ชายครุยได้หลายรูปแบบ การประกอบเข้ากับรางม่านต้องใช้เมจิกเทปหรือเทปตีนตุ๊กแก ตัวนิ่มเย็บติดกับผ้าม่าน ตัวแข็งจะติดอยู่ตัวรางโดยใช้กาวยึดติด รางม่าพับเป็นรางเฉพาะ


ผ้าม่านพับ ลายไทย4

 

หลักการพับเก็บของม่านก็คือ การใช้เชือกเป็นตัวดึงขึ้นและปล่อยลงโดยผ่านแกนม้วนเชือกซึ่งซ่อนอยู่ในตัวราง ส่งต่อไปยังเฟือง ที่มีโซ่ไข่ปลาคล้องอยู่ โซ่ไข่ปลาจะเป็นตัวคอลโทรลหมุนซ้ายและขวา ทำให้ม่านขึ้น-ลง หรือ เปิด-ปิด ตามระยะที่ต้องการ

4.ผ้าม่านหลุยส์

       

       ผ้าม่านหลุยส์ รูปแบบที่คลาสสิคสวยงาม เป็นที่นิยมตลอดกาล รูปแบบความเป็นม่านอย่างแท้จริง จุดเด่นคือส่วนบนของม่านเรียกว่าหัวหลุยส์ ประกอบเข้ากับม่านหลักที่ใช้ในการเปิด-ปิด คือผ้าม่านจับจีบทั้งผ้าทึบและผ้าโปร่ง โดยผ้าโปร่งค่อนข้างจำเป็นสำหรับม่านหลุยส์ จะทำให้ชุดผ้าม่านสมบูรณ์มากขึ้น ความลงตัวสวยงามผ้าทึบจะถูกรวบไว้ทั้งสองด้านทั้งซ้ายและขวาโดยสายรวบม่านที่เป็นเกลียวเชือมีภู่ห้อยอยูกับตะขอทองเหลือง จะทำให้เพิ่มสมบูรณ์ของชุดม่านหลุยส์ ให้ความรู้สึก นุ่มนวล อ่อนช้อย หรูหรา สง่างาม ซึ่งเหมาะกับสถานที่ที่เน้นความพิเศษ เช่น ห้องรับรอง ห้องรับแขก หรือการตกแต่งสถานที่ที่ต้องการความโดดเด่นสดุดตา

ม่านหลุยส์ แบบ 5 หัว
ม่านหลุยส์ พร้อมชุดผ้าโปร่ง

     

      หลุยส์มีหลายรูปแบบ สามารถเลือกตกแต่งได้ ทั้งแบบเรียบๆ ธรรมดาจนถึงหรูหราอลังการ เนื่องจากมีอุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบ เติมแต่งได้อย่างหลากหลาย ทั้งชายครุย เกลียวเชือก สายรวบม่าน ภู่ หรือส่วนอื่น เช่นอุปกรณ์ทองเหลืองที่นำมาใช้ประดับในรูปแบบต่างๆตามการออกแบบ วัสดุไกล้เคียงกันมีราคาแตกต่างกันค่อนข้างมาก ตั้งแต่ราคาหลักร้อย จนถึงราคาหลักพัน แต่สำหรับตามบ้านพักอาศัยทั่วไป อาจได้รับความนิยมน้อยกว่า เนื่องจากรูปสไตล์การแต่งบ้านในยุคปัจจุบันนิยมรูปแบบทันสมัย เรียบง่าย ในสไตล์โมเดิร์นแบบของม่านหลุยส์อาจเหมาะกับบ้านที่มีการตกแต่งออกแนวหรูหรา ในความคิดของเจ้าบ้านยุคนี้ และอีกข้อ ม่านหลุยส์เมื่อเทียบกับม่านอื่นๆแล้วราคาค่อนข้างสูงกว่า งบประมาณค่าใช้จ่ายมากกว่า ทำให้การตัดสินใจทำหลุยส์อาจน้อยกว่าม่านแบบอื่นๆ

 

ร้านผ้าม่าน CA.DECOR จำหน่าย ผ้าม่าน, มู่ลี่, มู่ลี่ไม้, มู่ลี่อลูมิเนียม, ฉากกั้นห้อง, ฉากกั้นห้องญี่ปุ่น, ม่านม้วน, ม่านปรับแสง, ผ้าม่านรถยนต์, ผ้าม่านหลุยส์, ผ้าม่านจีบ, ผ้าม่านตาไก่, ผ้าม่านพับ, ผ้าม่านลอน, ผ้าม่านกระเช้า, ม่านยก, ม่านกล่อง, ผ้าม่านโรงพยาบาลและ ภาพวิว